The 2-Minute Rule for ประวัติศาสตร์ย่อของทุนนิยม
The 2-Minute Rule for ประวัติศาสตร์ย่อของทุนนิยม
Blog Article
การพัฒนาเศรษฐกิจและการเมือง “ระบบทุนนิยมไทย”
เศรษฐกิจในไทยมีแนวโน้มเป็นแบบลำดับชั้นมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ด้วยกัน ก็มีทั้งกลุ่มที่สามารถกว้านซื้อกิจการกลุ่มอื่นได้ไม่อั้น กับกลุ่มที่ต้องดิ้นรนหาทางออกไปโตต่างประเทศ
“เธอไม่เชื่อในความพ่ายแพ้และไม่สนใจข่าวลือ” เสียงจากครอบครัว อิมาน เคลิฟ นักชกแอลจีเรีย
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้
เต๋า, ขงจื๊อ, พุทธ, คริสต์, อิสลาม, อื่นๆ
ถ้าจะให้วิเคราะห์เข้าไปดูโครงสร้างทุนนิยมไทย อาจแยกส่วนออกมาได้ดังนี้
คงจะดีกว่า หากเราได้เข้าไปสำรวจคำอธิบายของระบบทุนนิยม ดูว่าภายในระบบนี้แต่ละหน่วยของสังคมถูกจัดวางกันอยู่อย่างไร สัมพันธ์กันอย่างไร เพื่อช่วยให้เราเห็นภาพมากขึ้นว่าสังคมที่เราอยากแก้มีหน้าตาอย่างไร ปัญหาอยู่ตรงไหน และช่วยให้จินตนาการต่อไปได้ว่าต้องทำยังไงเราถึงจะไปสู่สังคมที่ดีไปกว่านี้ได้
รัฐบาลสามารถพัฒนาสังคมธุรกิจการค้าได้อย่างรวดเร็ว ทั้งที่เป็นของรัฐบาลและเอกชน ผู้นำรัฐบาลเองยังกล้าที่จะริเริ่มงานสำคัญในการลงทุนใหม่ๆ เพราะต่างก็มีความเป็นชาตินิยมและความทะเยอทะยานส่วนตัว พวกผพ่อค้าที่ร่ำรวยจากการค้าขายสมัยโทกูงาวะได้เปลี่ยนท่าทีขยายการลงทุนในกิจการอื่นๆ ได้มีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับกลุ่ม บริษัทนายทุนยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียง มีการรวมตัวเป็นกลุ่มทางธุรกิจขนาดใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อ กลุ่มไซบัตสึ (เช่น: มิตซุย, มิตซูบิชิ, ซูมิโตโมะและยาสุดะ) พวกไซบัตสึล้วนเป็นพ่อค้าที่เป็นมหาเศรษฐีและเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจ บางตระกูลได้ติดต่อทำธุรกิจให้แก่ภาครัฐบาลทางด้านการธนาคาร รับซื้อและขายทางธุรกิจอุตสาหกรรมของรัฐบาล รวมถึงการจัดซื้อหรือผลิตอาวุธให้รัฐบาล บางกลุ่มยังได้รับการอนุเคราะห์ทางด้านสินเชื่อจากรัฐบาลโดยตรงอีกด้วย นอกจากนี้กลุ่มบริษัทไซบัตสึยังเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการสนับสนุนให้ญี่ปุ่นทำสงครามขยายดินแดนล่าอาณานิคมเพื่อที่จะได้แหล่งระบายสินค้าและแหล่งวัตถุดิบเพิ่มขึ้น
มาร์กซ์, คาร์ล. " ทุน: ประวัติศาสตร์ย่อของทุนนิยม คำติชมของเศรษฐกิจการเมือง .
รัฐบาลใหม่ได้ยกเลิกระบอบศักดินาสวามิภักดิ์และมีการรวมศูนย์อำนาจไว้ในกรุงโตเกียว มีการสถาปนาสภานิติบัญญัติในสมเด็จพระจักรพรรดิขึ้นมาตามแบบอย่างของรัฐสภาอังกฤษ อันประกอบด้วยสภาขุนนาง (สภาสูง) และสภาผู้แทนราษฎร (สภาล่าง) อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นระบอบประชาธิปไตยได้ เนื่องจากอำนาจและอิทธิพลทางการเมืองส่วนใหญ่อยู่ที่เหล่าขุนนางในสภาสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะเก็นโรเป็นกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลที่สุดในระบบการเมือง
รวมถึงลักษณะการปกครองอำนาจนิยมของไทยนั้นยังเป็นการปกครองที่สหรัฐอเมริกาไม่ให้การยอมรับ แต่ต่อมามุมมองนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปเมื่ออำนาจฝ่ายคอมมิวนิสต์เริ่มแผ่ขยายเข้ามาในภูมิภาคนี้ประกอบกับพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศจีน เริ่มมีทีท่าทีที่จะประสบความสำเร็จในไม่ช้า สหรัฐอเมริกาจึงเห็นควรว่าควรดึงจอมพลป.เข้ามาเป็นพวก และใช้ไทยเป็นหน้าด่านในการต่อต้านคอมมิวนิสต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้งสองฝ่ายต่างได้รับผลประโยชน์ทางการเมืองจากการร่วมมือกัน จอมพลป.เปลี่ยนการดำเนินนโยบายต่างประเทศเป็นการต่อต้านคอมมิวนิสต์ เลือกข้างโลกเสรีนิยมอย่างชัดเจน สหรัฐอเมริกาเองก็มอบเงินช่วยเหลือทั้งทางด้านงบประมาณทางการทหาร และเศรษฐกิจให้กับไทยมากขึ้นตามระดับความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทย และระดับความรุนแรงของภัยคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค สหรัฐอเมริกาให้ความช่วยเหลือ ตั้งแต่การปรับปรุงพัฒนาพันธุ์ข้าวและการจัดการโรคระบาดในสัตว์ ต่อมายกระดับความช่วยเหลือจากการที่อเมริกาเห็นว่าระดับภัยคุกคามของคอมมิวนิสต์มีระดับรุนแรงขึ้น รวมถึงตัวจอมพลป.
จดทะเบียนพาณิชย์ถูกต้อง มีหมายเลขพัสดุติดตามการจัดส่งได้ทุกขั้นตอน
ธุรกิจ กลุ่มธุรกิจใหญ่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้นำการเมือง ได้สัมปทานและการปกป้องการแข่งขันแบบไม่ต้องออกแรงหรือลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี
ทรัพย์สินส่วนตัวและความเป็นเจ้าของทรัพยากรเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจทุนนิยม ภายในระบบนี้ บุคคลหรือองค์กรเอกชน (เรียกว่านายทุน) เป็นเจ้าของและควบคุมกลไกการค้าและวิธีการผลิต (โรงงาน เครื่องจักร วัสดุ ฯลฯ ที่จำเป็นสำหรับการผลิต) ในระบบทุนนิยมที่ "บริสุทธิ์" ธุรกิจต่างแข่งขันกันเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และการแข่งขันเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทำหน้าที่กันไม่ให้ราคาขึ้น